รีวิว The Uncanny Counter

ซีรีส์เกาหลีที่สร้างจากเว็บตูนชื่อ Amazing Rumor เรื่องราวของกลุ่มนักล่าปีศาจที่เรียกตัวเองว่า Counter พวกเขาปกปิดตัวด้วยการเปิดร้านบะหมี่บังหน้า และได้รับหน้าที่นี้มาจากนรก เป็นเหมือนยมฑูตล่าปีศาจในโลกมนุษย์ แต่ทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาโคม่าใกล้ตายมาก่อนแล้วถึงจะมาทำงานนี้ได้ และได้รับพลังพิเศษแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่แล้ววันหนึ่ง “โซมุน” เด็กหนุ่มขาพิการที่ใช้ชีวิตปกติอยู่ดีๆ กลับได้รับพลังนี้มาอย่างไม่รู้ตัว และก็ได้ก้าวเข้ามาสู่โลกของ Counter จากการชักชวนของรุ่นพี่ร้านบะหมี่ที่ต้องการสมาชิกใหม่มาทดแทนคนที่พึ่งตายไปจากปีศาจร้ายระดับสูงที่ทีมนี้พึ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก สปอยล์หนังใหม่

ซีรีส์เรื่องนี้พล็อตไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรมากนัก เป็นเหมือนแนวการ์ตูนทั่วไปที่ตัวเอกเป็นนักเรียน วันดีคืนดีได้พลังพิเศษมาครอง ได้พบเจอปีศาจหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ ช่วยผู้คน กู้โลก พบรักกับสาวในวงการเดียวกัน แทบทุกอย่างเรียกว่าธรรมด๊าธรรมดามากจริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าซีรีส์ฝรั่งเองก็หยิบพล็อตแบบนี้มาใช้เช่นกัน เพียงแต่ตัวเอกอาจจะโตกว่าเท่านั้น แต่อย่างอื่นก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่เลย เพราะเรื่องราวการต่อสู้กับปีศาจที่ลงมาสิงคนแทบจะเป็นอะไรที่ไม่สามารถฉีกให้แตกต่างไปได้อีกแล้ว แต่ในรายละเอียดตัวเรื่อง Counter กลับมีอะไรหลายอย่างที่ลงลึกแตกต่างได้อย่างน่าสนใจ

แม้หน้าตาภายนอกอาจจะทำให้คิดว่าเรื่องนี้เป็นแนวตลก จากชุดทีม Counter ที่เหมือนชุดพละ หรือการใช้ร้านบะหมี่มาบังหน้า แต่เรื่องค่อนข้างเดินไปแบบจริงจังซีเรียสมากกว่าหน้าตาภายนอกที่เห็น เมื่อเรื่องหยิบเอาการบูลลี่ในโรงเรียนมาควบคู่กับการเติบโตลุกขึ้นมาต่อสู้ของตัวเอกโซมุน ที่ขาพิการแล้วยังถูกกลั่นแกล้งอย่างรุนแรง เมื่อโชมุนได้พลังที่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งกว่าคนปกติมา เขาก็ยังไม่อาจจะใช้มันเพื่อเรื่องส่วนตัวได้จากกฎของการเป็น Counter ซึ่งทำให้เรื่องมีพัฒนาการของพระเอกในสองเวอร์ชั่น การต่อสู้กับปีศาจในโลกภายนอกโรงเรียนที่ไม่มีใครรู้ กับการต่อสู้ด้วยตัวเองในโรงเรียนเพื่อหยุดการบูลลี่ของกลุ่มเด็กเหลือขอที่พ่อมีอำนาจในเมืองแห่งนี้ ซึ่งเรื่องโฟกัสไปที่สองด้านพร้อมๆ กัน และก็ทำให้คนดูค่อยๆ เห็นฮีโร่เด็กวัยรุ่นที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาทั้งความคิดและพลังความรับผิดชอบที่เขาได้รับมาจากการเป็น Counter ที่มีที่มาแปลกแตกต่างจากคนอื่นในทีม (ไม่ได้ติดค้างการชุบชีวิตแบบคนอื่น)

ในอีกด้านนึงคือรายละเอียดของโลกในเรื่องนี้ก็มีการลงดีเทลลึกๆ ที่น่าสนใจไว้หลายอย่าง อย่างความสามารถพื้นฐานการอ่านความทรงจำ ที่มีพระเอกกับ “โดฮานา” นางเอกที่เป็นสาวปริสนาในทีมที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้อดีตมาก่อน และเธอก็ไม่ยอมให้ใครอ่านความทรงจำนี้ ในขณะที่ตัวเอกเองก็มีความทรงจำเลวร้ายในอดีตที่สูญเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุ และยังขาพิการจากเรื่องนี้ด้วย แต่ว่าจริงๆ แล้วกลับเป็นคดีฆาตกรรมที่ถูกวางแผนมา ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องหลักของเมืองนี้ ที่มีนักการเมืองท้องถิ่นกุมอำนาจไว้อยู่

นอกจากนั้นก็ยังมีพวกดีเทลอย่างสเกลพลังของปีศาจในเรื่องที่เปิดมาก็เจอระดับบอสที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ปีศาจในเรื่องนี้ถูกแบ่งออกเป็นเลเวล 1 2 3 4 มีระดับที่มาจากการกลืนกินชีวิตมนุษย์ และพลังพิเศษที่เพิ่มงอกมาในแต่ละตัวแบบเดียวกับ Counter เองก็มีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไปอีก นอกจากพื้นฐานที่ปูว่าแข็งแรงกว่ามนุษย์ปกติ 3 เท่า ซึ่งตัวเอกเองมีพลังลึกลับซ่อนอยู่มากกว่าคนอื่นในทีม และกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาความสามารถนั้นออกมา ก็เหมือนเป็นการเรียนรู้พลังในแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่โดยทั่วไป ซึ่งพวกนี้ก็ใช้ CG แสงสีมาประกอบช่วยทำให้เรื่องดูมีแอ็กชั่นน่าสนใจมากขึ้น อย่างแสงขอบเขตที่ช่วยเสริมพลังของกลุ่มตัวเอก หรือพวกกระโดดข้ามตึกไล่ล่ากันแบบฟรีรันนิ่ง รวมถึงพลังพิเศษของปีศาจ รวมๆ แล้วถือว่าทำออกมาโอเคเลย แต่อาจจะไม่ได้ดูหวือหวาเด่นมากนัก เพราะไม่ได้เป็นหนังที่เล่นเรื่องพวกนี้โดยตรง ส่วนใหญ่จะเตะต่อยอัดกันดุ้นๆ มากกว่าจะใช้พลังพิเศษมาต่อสู้กัน

ซึ่งคิวบู๊ในเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาดีเกินกว่าระดับซีรีส์ทั่วไปมาก นักแสดงทุกคนต่างต้องเล่นบทบู๊เตะต่อยโลดโผนกันได้ทุกคน ซึ่งหลายฉากก็ออกแบบคิวบู๊ด้วยมุมมองแปลกใหม่อย่าง เฟิร์สเพอร์ซั่น หรือมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งทำให้ดูเหมือนกำลังเล่นเกมอยู่ ตัวเรื่องเรียกว่าพิถีพิถันในส่วนนี้มากอย่างเห็นได้ชัด ถ้าใครชอบแนวแอ็กชั่น ตอบโจทย์ได้ทันทีเพราะเรื่องจัดฉากพวกนี้แทรกเข้ามาในทุกตอน

จุดเด่นอีกอย่างของเรื่องคือ ตัวละครนางเอก “โดฮานา” ที่วางลุคไว้เป็นสาวหน้าตาดี เซ็กซี่ ลึกลับ ซึ่งนักแสดงอย่าง คิมเซจอง ไอดอล-นักรองสาววง Gugudan มารับบทนี้ได้ตรงตามคาแรกเตอร์เป๊ะๆ ทั้งหน้าตาที่งดงามแบบร้ายๆ สายตา ท่าทาง ยั่วยวนเร้าอารมณ์มาก แต่เธอมาพร้อมกับความโหดที่ใครก็เข้าใกล้หรือสนิทกับเธอไม่ได้ ทำให้ตัวพระเอกเองที่ปิ๊งแรกพบ (ซึ่งรับรองว่าคนดูเองก็ต้องปิ๊งเธอเช่นกัน) กลับต้องเจองานหินเมื่อคิดจะจีบเธอ และต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ได้เน้นให้มีเรื่องรักแบบเกาหลีโดยทั่วไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นโฟกัสไปที่แนวทางสืบสวนได้เต็มๆ

หลังจากตัวเรื่องเปิดมาเหมือนแนวล่าปีศาจธรรมดา แต่พอเริ่มไม่กี่ตอนช่วงแรกก็จะเริ่มเข้าปมหลักที่เผยให้เห็นว่าเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีอะไรที่ไม่ปกติธรรมซ่อนอยู่ อย่างการเป็นที่รวมของปีศาจระดับสูง ซึ่งแต่ละตัวก็ร้ายกาจแบบทีมพระเอกรุมก็ยังแทบสู้ไม่ได้ และยังมีปมความตายของพ่อแม่พระเอกกับตัวละครอื่นที่ล้วนมาเกี่ยวพันด้วยกันทั้งหมด ซึ่งเรื่องก็ค่อยๆ เผยให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองแห่งนี้ ถึงกลายเป็นศูนย์กลางของเหล่าปีศาจ ที่มีความทะเยอทะยานใหญ่โตทางการเมืองถึงระดับประธานาธิบดีครองประเทศได้เลย

Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง CITY OF LIES

แนะนำซีรีย์ : Lovers of the Red Sky (2021)

รีวิวหนัง App War แอปชนแอป